มุมข่าวน่าสนใจ

วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Toriko โทริโกะ ยอดคนเปิปพิศดาร ตอนที่ 25-27 ภาคภาษาอังกฤษ

โทริโกะ นักล่าอาหาร ตอนที่ 25-27

 เรื่องโทริโกะนั้น เป็นการ์ตูนที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค ปัจจุบันมีออกมาแล้วประมาณ 15 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ ล่าอาหาร ในยุคที่อาหารและการกินนั้นถือเป็นทุกๆอย่างในโลก เน้นการผจญภัยเหนือจินตนาการ สนุกมากๆครับ 5555
เรื่องย่อ
            เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดในยุคที่เรียกว่ายุคกรูเม่ต์นั่นคืออาหาร นั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโลกใบนี้ และพระเอกของเราก็คือนักล่า อาหารมีนามว่า โทริโกะ หนุ่มบ้ากล้าม ซึ่งเป็น 1 ในจตุรเทพนักล่าอาหารชื่อดัง ออกเดินทางไปทั่วเพื่อตามล่าหาวัตถุดิบที่มีค่ามากินเพื่อเพิ่มพลังให้กับตน เอง โดยเขาได้จับคู่กับ โคมัตสึ กุ๊กฝีมือเยี่ยมในการเดินทางผจญภัยไปในแต่ละที่ เพื่อสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณค่า และหายากเพื่อมาเติมเต็มในฟูล คอร์ส ซึ่งถือว่าเป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดของนักล่าอาหารทุกๆคน

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Zombie Ass : Toilet of the Dead

Zombie Ass : Toilet of the Dead

ญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประเทศที่ผลิตหนังออกมาได้แหวกแนวที่สุดในเอเชียจริงๆ หลังจากครั้งที่แล้วเราได้ลงตัวอย่างเกี่ยวกับหนังญี่่ปุ่นเมื่อดาราเอวีต้องมาลุยกับซอมบี้ใน Lust of The Dead โดยควันหลงก็ยังไม่ทันหาย ได้มีหนังญี่ปุ่นแนวผู้หญิงเซ็กซี่ลุยซอมบี้มาอีกเรื่องแล้วกับ Zombie Ass : Toilet of The Dead โดยคราวนี้เป็นการคืนบัลลังก์ตัวจริงของผู้กำกับ Machine Girl ที่มาคราวนี้ก็ยังขนนักแสดงหน้าตาน่ารัก พร้อมกับฉากโหด และ โป๊ ที่เรียกได้ว่าถูกใจคอหนังอย่างแน่นอนเลยทีเดียว

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Parker

Parker ปล้นมหากาฬ 




แนว : แอ็คชั่น ทริลเลอร์ 
นำแสดง: เจสัน สเตทแธม, เจนนิเฟอร์ โลเปซ, คลิฟตัน คอลลิน จูเนียร์, นิค โนลเต้        
กำกับ: เทย์เลอร์ แฮ็คฟอร์ค 

          นักโจรกรรมมืออาชีพที่ใช้ชีวิตตามกฎของตัวเอง ออกตามล่าล้างแค้นกลุ่มคนที่หักหลังเขาใน Parker หนังแอ็คชั่น-ทริลเลอร์สุดเข้มข้น ในฉากหลังของเมืองตากอากาศ ผลงานโดยผู้กำกับรางวัลออสการ์ เทย์เลอร์ แฮ็คฟอร์ค ที่นำเอาตัวละคร พาร์คเกอร์ จากนวนิยายชุดของ โดนัลด์ อี เวสเลค ที่มีมาแล้วถึง 29 เล่ม มาสร้างให้มีชีวิตโลดแล่นในโลกภาพยนตร์

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Bad Teacher จาร์ยแสบแอบเอ็กซ์

จาร์ยแสบแอบเอ็กซ์ 

นำแสดง : คาเมรอน ดิแอซ, จัสติน ทิมเบอร์เลค, ลูซี่ พันช์
กำกับ : เจค คัสแดน



เรื่องย่อ Bad Teacher

          อาจาร์ยสาวสวย สุดแสบ อลิซาเบธ ฮัลซีย์ (คาเมรอน ดิแอซ) เป็นครูที่ไม่ให้เกรด F แต่เธอทั้งปากร้าย ไร้ปรานี แถมทำตัวไม่เหมาะสมสุด ๆ อีกต่างหาก เธอดื่มเหล้า เมายา และแทบทนรอไม่ไหวที่จะได้แต่งงานแต่งการ พร้อมสะบัดก้นให้กับงานสอนที่โรงเรียนมัธยมเสียที แต่เมื่อเธอถูกคู่หมั้นทอดทิ้ง เธอก็เริ่มเดินแผนการที่จะเอาชนะใจครูหนุ่มสุดหล่อ พ่อรวย (จัสติน ทิมเบอร์เลค) แทนที่หนุ่มเก่าทันที ด้วยการแข่งขันกับเพื่อนร่วมงานสาวไฟแรง เอมี่ (ลูซี่ พันช์) แต่ตัวเธอเองก็ต้องคอยหนีจากครูสอนพละจอมตื๊อด้วยเหมือนกัน แผนการสุดอลหม่านของอลิซาเบธและผลสุดป่วนที่ตามมาจะทำให้ทั้งลูกศิษย์ เพื่อนร่วมงานหรือแม้แต่ตัวเธอเองต้องช็อคไปตาม ๆ กัน

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

The Wolverine

The Wolverine



The Wolverine ที่สร้างขึ้นจากตัวละครที่มชื่อเสียงโด่งดังจากหนังสือการ์ตูน มหากาพย์แอ็คชั่นผจญภัยซึ่งครั้งนี้ได้นำ วูล์ฟเวอรีน (ฮิวจ์ แจ็คแมน) ตัวละครในจักรวาลแห่งเอ็กซ์เมนที่มีภาพติดตาที่สุดไปอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ยุคปัจจุบัน เขากลายเป็นผู้ไร้ความสามารถที่ต้องอยู่ในโลกลึกลับ และต้องพบกับความพ่ายแพ้ในสมรภูมิรบที่เสี่ยงต่อความเป็นความตาย ซึ่งจะทำให้เขาต้องกลายพันธุ์ไปตลอดกาล นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะอ่อนแอ และต้องผลักดันทั้งกายและใจตัวเองให้ถึงขีดสุด เขาไม่เพียงพบกับซามูไรเหล็กตัวฉกาจเท่านั้น แต่ยังต้องสู้กับความเป็นอมตะในตัวเอง ครั้งนี้เขาจะมีพลังมากกว่าที่เราเคยเห็นมาก่อน

Upside Down นิยามรักปฏิวัติสองโลก

แนว : โรแมนติก-ไซไฟ
นำแสดง : คริสเตน ดันสท์, จิม สเตอร์เกส
กำกับ : Juan Diego

          ความ รักมักทำได้ทุกสิ่ง แต่มีสิ่งเดียวที่ผู้ชายคนนี้จะทุ่มเทเพื่อคนที่รัก การพบกันครั้งแรกระหว่าง จิม สเตอร์เกรส และ คริสเตน ดันสท์ ในหนังแฟนตาซี - โรแมนติก เรื่องล่าสุด Upside Down นิยามรักปฏิวัติสองโลก




เรื่องย่อ Upside Down

          อดัม (จิม สเตอร์เกส) เด็กหนุ่มธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่มีชีวิตเรียบง่ายอาศัยอยู่ในจักรวาลอันบิดเบี้ยว เมื่อวิถีแห่งแรงโน้มถ่วงได้ทำให้โลกถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน มีเพียงท้องฟ้าเบื้องบนเท่านั้นที่มาบรรจบเข้าหากัน ซึ่ง อดัม อาศัยอยู่ในโลกเบื้องล่างที่ ๆ เป็นของคนชนชั้นกรรมกรอาศัยอยู่ อดัม มีเพียงความทรงจำอันเลือนลางในช่วงวัยเด็กเท่านั้นที่เขายังจำได้แม่นยำคือรักแรกพบของเขากับ อีเด็น(คริสเตน ดันสท์) มันเป็นความฝังใจที่เขาไม่เคยลืมและเขารู้สึกได้เลยว่า อีเด็น เป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวผู้น่ารักจิตใจดี ที่มาจากโลกเบื้องบน

วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Toriko โทริโกะ ยอดคนเปิปพิศดาร ตอนที่ 22-24

โทริโกะ นักล่าอาหาร ตอนที่ 22-24

 เรื่องโทริโกะนั้นเป็นการ์ตูนที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค ปัจจุบันมีออกมาแล้วประมาณ 15 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ ล่าอาหาร ในยุคที่อาหารและการกินนั้นถือเป็นทุกๆอย่างในโลก เน้นการผจญภัยเหนือจินตนาการ สนุกมากๆครับ 5555

เรื่องย่อ

            เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดในยุคที่เรียกว่ายุคกรูเม่ต์นั่นคืออาหารนั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโลกใบนี้ และพระเอกของเราก็คือนักล่า อาหารมีนามว่า โทริโกะ หนุ่มบ้ากล้าม ซึ่งเป็น 1 ในจตุรเทพนักล่าอาหารชื่อดัง ออกเดินทางไปทั่วเพื่อตามล่าหาวัตถุดิบที่มีค่ามากินเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง โดยเขาได้จับคู่กับ โคมัตสึ กุ๊กฝีมือเยี่ยมในการเดินทางผจญภัยไปในแต่ละที่ เพื่อสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณค่า และหายากเพื่อมาเติมเต็มในฟูล คอร์ส ซึ่งถือว่าเป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดของนักล่าอาหารทุกๆคน

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Toriko โทริโกะ ยอดคนเปิปพิศดาร ตอนที่ 19-21

โทริโกะ นักล่าอาหาร ตอนที่ 19-21

 เรื่องโทริโกะนั้นเป็นการ์ตูนที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค ปัจจุบันมีออกมาแล้วประมาณ 15 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ ล่าอาหาร ในยุคที่อาหารและการกินนั้นถือเป็นทุกๆอย่างในโลก เน้นการผจญภัยเหนือจินตนาการ สนุกมากๆครับ 5555

เรื่องย่อ

            เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดในยุคที่เรียกว่ายุคกรูเม่ต์นั่นคืออาหารนั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโลกใบนี้ และพระเอกของเราก็คือนักล่า อาหารมีนามว่า โทริโกะ หนุ่มบ้ากล้าม ซึ่งเป็น 1 ในจตุรเทพนักล่าอาหารชื่อดัง ออกเดินทางไปทั่วเพื่อตามล่าหาวัตถุดิบที่มีค่ามากินเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง โดยเขาได้จับคู่กับ โคมัตสึ กุ๊กฝีมือเยี่ยมในการเดินทางผจญภัยไปในแต่ละที่ เพื่อสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณค่า และหายากเพื่อมาเติมเต็มในฟูล คอร์ส ซึ่งถือว่าเป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดของนักล่าอาหารทุกๆคน

Toriko โทริโกะ ยอดคนเปิปพิศดาร ตอนที่ 16-18

โทริโกะ นักล่าอาหาร ตอนที่ 16-18

 เรื่องโทริโกะนั้นเป็นการ์ตูนที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค ปัจจุบันมีออกมาแล้วประมาณ 15 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ ล่าอาหาร ในยุคที่อาหารและการกินนั้นถือเป็นทุกๆอย่างในโลก เน้นการผจญภัยเหนือจินตนาการ สนุกมากๆครับ 5555

เรื่องย่อ

            เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดในยุคที่เรียกว่ายุคกรูเม่ต์นั่นคืออาหารนั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโลกใบนี้ และพระเอกของเราก็คือนักล่า อาหารมีนามว่า โทริโกะ หนุ่มบ้ากล้าม ซึ่งเป็น 1 ในจตุรเทพนักล่าอาหารชื่อดัง ออกเดินทางไปทั่วเพื่อตามล่าหาวัตถุดิบที่มีค่ามากินเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง โดยเขาได้จับคู่กับ โคมัตสึ กุ๊กฝีมือเยี่ยมในการเดินทางผจญภัยไปในแต่ละที่ เพื่อสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณค่า และหายากเพื่อมาเติมเต็มในฟูล คอร์ส ซึ่งถือว่าเป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดของนักล่าอาหารทุกๆคน

Toriko โทริโกะ ยอดคนเปิปพิศดาร ตอนที่ 11-15

โทริโกะ นักล่าอาหาร ตอนที่ 11-15

 เรื่องโทริโกะนั้นเป็นการ์ตูนที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค ปัจจุบันมีออกมาแล้วประมาณ 15 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ ล่าอาหาร ในยุคที่อาหารและการกินนั้นถือเป็นทุกๆอย่างในโลก เน้นการผจญภัยเหนือจินตนาการ สนุกมากๆครับ 5555

เรื่องย่อ

            เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดในยุคที่เรียกว่ายุคกรูเม่ต์นั่นคืออาหารนั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโลกใบนี้ และพระเอกของเราก็คือนักล่า อาหารมีนามว่า โทริโกะ หนุ่มบ้ากล้าม ซึ่งเป็น 1 ในจตุรเทพนักล่าอาหารชื่อดัง ออกเดินทางไปทั่วเพื่อตามล่าหาวัตถุดิบที่มีค่ามากินเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง โดยเขาได้จับคู่กับ โคมัตสึ กุ๊กฝีมือเยี่ยมในการเดินทางผจญภัยไปในแต่ละที่ เพื่อสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณค่า และหายากเพื่อมาเติมเต็มในฟูล คอร์ส ซึ่งถือว่าเป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดของนักล่าอาหารทุกๆคน

Toriko โทริโกะ ยอดคนเปิปพิศดาร ตอนที่ 6-10

โทริโกะ นักล่าอาหาร ตอนที่ 6-10

 เรื่องโทริโกะนั้นเป็นการ์ตูนที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค ปัจจุบันมีออกมาแล้วประมาณ 15 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ ล่าอาหาร ในยุคที่อาหารและการกินนั้นถือเป็นทุกๆอย่างในโลก เน้นการผจญภัยเหนือจินตนาการ สนุกมากๆครับ 5555

เรื่องย่อ

            เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดในยุคที่เรียกว่ายุคกรูเม่ต์นั่นคืออาหารนั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโลกใบนี้ และพระเอกของเราก็คือนักล่า อาหารมีนามว่า โทริโกะ หนุ่มบ้ากล้าม ซึ่งเป็น 1 ในจตุรเทพนักล่าอาหารชื่อดัง ออกเดินทางไปทั่วเพื่อตามล่าหาวัตถุดิบที่มีค่ามากินเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง โดยเขาได้จับคู่กับ โคมัตสึ กุ๊กฝีมือเยี่ยมในการเดินทางผจญภัยไปในแต่ละที่ เพื่อสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณค่า และหายากเพื่อมาเติมเต็มในฟูล คอร์ส ซึ่งถือว่าเป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดของนักล่าอาหารทุกๆคน

Toriko โทริโกะ ยอดคนเปิปพิศดาร ตอนที่ 1-5

โทริโกะ นักล่าอาหาร ตอนที่ 1-5

 เรื่องโทริโกะนั้นเป็นการ์ตูนที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค ปัจจุบันมีออกมาแล้วประมาณ 15 เล่ม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ ล่าอาหาร ในยุคที่อาหารและการกินนั้นถือเป็นทุกๆอย่างในโลก เน้นการผจญภัยเหนือจินตนาการ สนุกมากๆครับ 5555

เรื่องย่อ

            เนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวที่เกิดในยุคที่เรียกว่ายุคกรูเม่ต์นั่นคืออาหารนั้นเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของโลกใบนี้ และพระเอกของเราก็คือนักล่า อาหารมีนามว่า โทริโกะ หนุ่มบ้ากล้าม ซึ่งเป็น 1 ในจตุรเทพนักล่าอาหารชื่อดัง ออกเดินทางไปทั่วเพื่อตามล่าหาวัตถุดิบที่มีค่ามากินเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง โดยเขาได้จับคู่กับ โคมัตสึ กุ๊กฝีมือเยี่ยมในการเดินทางผจญภัยไปในแต่ละที่ เพื่อสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณค่า และหายากเพื่อมาเติมเต็มในฟูล คอร์ส ซึ่งถือว่าเป็น สิ่งที่สำคัญที่สุดของนักล่าอาหารทุกๆคน



ตัวละครหลัก

           โทริโกะ ไอ้หนุ่มบ้ากล้าม จอมพลัง มีฉายาว่า จอมตะกละ เนื่องมาจากเขาสามารถกินอาหารได้ในจำนวนที่คนทั้งกองทัพกินกัน และด้วยพละกำลังที่มากมายมหาศาลและเทคนิคการต่อสู้ขั้นสุดยอดทำให้เขาถูกกล่าวขานกันว่าเป็น 1 ใน จตุรเทพของนักล่าอาหาร

             โคมัตสึ กุ๊กตัวเล็ก ขี้ตกใจ ขี้กลัวแต่มีฝีมือด้านการทำอาหารเป็นเลิศและยังมีพรสวรรค์สำคัญที่จพเป็นในการออกตามล่าอาหารนั่นก็คือ การดึงดูดวัตถุดิบอันมีค่า เขาออกเดินทางเป็นคู่หูกับโทริโกะ เพื่อศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบและอาหารที่มีอยู่มากมายทั่วโลกใบนี้

             โคโคะ อีก 1 ใน 4 จตุรเทพนักล่าอาหาร เป็นเพื่อนของโทริโกะ มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้พิษ มีความรอบรู้เรื่องเกี่ยวกับพิษ และสัตว์มีพิษเป็นอย่างดี และมีความสามารถพิเศษในการดูดวง คาดเดาชะตาได้อีกด้วย

             ซานี่  อีก 1 ใน 4 จตุรเทพ ผู้รักสวยรักงาม เขาเป็นนักล่าอาหารที่ใช้ความสามารถในการควบคุมเส้นผมในการโจมตีและต่อสู้ เขาเลือกที่จะล่าแต่สิ่งที่สวยงามเท่านั้น

                ซีบร้า อีก 1 ใน 4 จตุรเทพ ดูเหมือนจะเป็นคู่กัดกับทางโทริโกะ ปัจจุบันนั้นถูกจองจำอยู่ในคุกเนื่องจากเป็นตัวอันตราย ร่างกายใหญ่โต ดูน่ากลัว แต่จริงๆแล้วลึกๆเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีมากๆแต่ไม่แสดงออก 5555 ใช้คลื่นเสียงเป็นอาวุธ  ในการโจมตีและการตามหาเป้าหมาย เป็นคนที่ได้รับการยอมรับว่าเก่งมากที่สุดคนหนึ่ง

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก

ภาพยนตร์เรื่อง 300 ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก เป็นการนำเสนอช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ สงครามระหว่าง 2 ชนชาติ สปาร์ต้า (Sparta) และเปอร์เซีย (Persia) ในช่วงยุคสมัยราว 480 ปี ก่อน ค.ศ. ในครั้งแรกที่ผมได้รับชมภาพยนตร์โฆษณาของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้ผมมีความสนใจที่จะรับชมในทันที ประเด็นหลักที่ผมให้ความสนใจนั้นก็คือ นักรบ 300 คน ต่อสู้กับทหารจำนวนมากมาย เค้าจะทำได้อย่างไรและทำได้จริง ๆ หรือ? นับว่าสื่อโฆษณาที่ผู้สร้างได้ลงทุนทำมานั้นสัมฤทธิ์ผลอย่างน้อยผม 1 คนที่ได้ติดกับตกเป็นเหยื่อของความสงสัยอยากรู้อยากเห็น แต่เมื่อได้ชมภาพยนตร์จนจบแล้ว ผมกลับไม่ยอมที่จะจบไปกับภาพยนตร์ที่ได้ดู สิ่งที่ผุดขึ้นในหัว ประการแรกก็คือ300 คนสู้กับคนตั้งมากมายจะทำได้จริงหรือเปล่านะ? หรือเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แบบนี้มันต้องสืบ ประการที่สองแล้วเรื่องราวมันจะดำเนินต่อไปอย่างไรหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนั้นจบลง (นิสัยแบบนี้เลยตกเป็นเหยื่อของภาพยนตร์ ภาค 2 ที่ทำมาขาย ฮา...) จากการที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ในโรง 1 รอบ แผ่น VCD 2 รอบ แผ่นDVD 2 รอบ (รอบสุดท้ายดูเพื่อเขียนบทความนี้) รวมทั้งหมด 5 รอบ มาดูกันครับว่าผมได้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้มาบ้าง
ในช่วงเริ่มต้นของภาพยนตร์ มีการกล่าวถึงการเด็กที่ถือกำเนิดขึ้นมาในสปาร์ต้า ถ้ามีรูปร่างที่ไม่ปกติ พิกลพิการ เขาจะต้องถูกกำจัด และเมื่อใดที่เด็กชาย เริ่มยืนได้เขาก็จะต้องถูกนำไปฝึกฝนการต่อสู้ เมื่อมีวัย 7 ปีเด็กชายจะถูกพรากไปจากแม่เข้าไปสู่โลกแห่งความรุนแรง สปาร์ต้าคืออะไร สังคมของสปาร์ต้าจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ! หากกล่าวถึงประวัติความเป็นมา สปาร์ต้า คือนครรัฐ (City-State) หนึ่งของกรีกโบราณ (กรีกโบราณประกอบไปด้วยนครหลาย ๆ นครรัฐ นครรัฐที่สำคัญได้แก่ เอเธนส์ (Athens) , ทีบีส (Thebes) , ไมลีตัส (Miletus) , คอรินธ์ (Corinth) , เมการา (Megara) เป็นต้น) สปาร์ต้ามีเชื้อสายมาจากพวกดอเรียน (Dorians) ตั้งอยู่ในแคว้น Laconia (Lacedaemonia) บนแหลม พีโลพอเนซัส(Peloponnesus) ราว 800 ปีก่อน ค.ศ. สังคมของชาวสปาตันมี นิสัยลักษณะแบบทหาร (military habits) รัฐจะมีการตรวจสอบเด็กที่เกิดมาในทุกครอบครัวหากพบความผิดปกติ พิกลพิการ รัฐก็จะกำจัดเด็กเหล่านั้นทิ้งทันที เมื่อเด็กผู้ชายที่มีอายุ 7 ปีเขาจะถูกนำออกจากครอบครัวเพื่อฝึกการต่อสู้ ให้มีร่างกายและจิตใจที่เข้มแข็ง มีความทนทานต่อสภาพที่ทุกข์ยากลำบาก โดยสำคัญที่ว่าเด็กถือเป็นสมบัติของรัฐ ไม่ใช่ของบิดา มารดา จากประเด็นในจุดนี้จะครับจะสังเกตได้ว่าเด็ก ๆ ในสปาร์ต้านั้น มีระบบการเรียนการสอนที่เน้นไปทางทหาร จึงทำให้สปาร์ต้าปราศจาก ปราชญ์ และ กวี ประวัติศาสตร์เรื่องราวของชนชาติสปาร์ต้าจึงมักจะถูกเขียนบันทึกขึ้นมาจาก คนภายนอกนครรัฐ
ลำดับต่อมาเราจะได้เห็น คณะผู้ส่งสารจากเปอร์เซีย ได้มาเยือนที่นครรัฐสปาต้า เพื่อส่งสารให้กับ เลโอนิดัส (Leonidas) กษัตริย์แห่งสปาร์ต้า เนื้อความในสารที่นำมาไม่ค่อยจะเป็นที่ถูกใจของ เลโอนิดัส เท่าที่ควร จากนั้นก็จะได้เห็นฉากที่ กษัตริย์เลโอนิดัส ถีบผู้ส่งสารชาวเปอร์เซีย ตกลงไปในท่อขนาดมหึมา!!! เหตุการณ์ในฉากนี้ก่อให้เกิดสงครามระหว่าง กรีก และเปอร์เซีย ใช่หรือไม่? หรือมาจากสาเหตุประการอื่น? ประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาสร้างภาพยนตร์นั้นก็คือสงครามลงโทษกรีก
เมื่อกล่าวถึงสงครามประเด็นแรกที่น่าจะต้องกล่าวถึงคือ ชนวนเหตุเกิดขึ้นมาจากอะไร? สงครามลงโทษกรีก ผมขอแบ่งออกเป็นช่วง ๆ (จากทั้งหมด 4 ครั้ง) เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นคือสงครามลงโทษกรีกครั้งที่ 1 และ สงครามลงโทษกรีกครั้งที่ 2 (ครั้งที่ 3 - 4 ไม่เกี่ยวข้องกับตัวภาพยนตร์แล้วครับ) พวกเปอร์เซีย (Persia) มาจากเชื้อสาย อินโด ยูโรเปียน (Indo-Europeans) ที่สร้างจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่บริเวณเมโสโปเตเมีย และขยายดินแดนออกไปกินพื้นที่ เอเชียไมเนอร์ ซีเรีย อินเดีย รวมถึงอียิปต์ สงครามลงโทษกรีกครั้งที่ 1 (ราว 499 - 494 ปีก่อน ค.ศ.) เกิดในรัชสมัยของ พระเจ้าดาริอุสมหาราช (Darius I) แห่งเปอร์เชีย เมื่อนครรัฐของกรีกในตุรกี (พวกไอโอเนียน Ionians ในเอเชียไมเนอร์) ที่อยู่ภายใต้การปกครองของเปอร์เชีย คอยหาโอกาสที่จะแยกตัวเป็นอิสระ จึงขอความช่วยเหลือไปยังนครรัฐเอเธนส์ และนครรัฐสปาร์ต้า นครรัฐสปาร์ต้าเพิกเฉยต่อคำขอ แต่นครรัฐเอเธนส์ส่งกำลังเข้าไปช่วยเหลือนครรัฐของกรีกในตุรกี เผาที่พักของ แซแทรป และประกาศไม่ขึ้นต่อเปอร์เชีย (แซแทรป Satrap ตำแหน่งผู้ว่าราชการปกครองของเปอร์เชีย ขึ้นตรงต่อกษัตริย์ ควบคุมกิจการใน แซแทรปปี Satrapies เปอร์เชียเรียกมณฑลว่า แซแทรปปี) ความรู้ถึงพระเจ้าดาริอุส ทำให้ไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงทำสงครามลงโทษกรีก โดยเฉพาะนครรัฐเอเธนส์ ผลของสงครามในครั้งนี้ฝ่ายเปอร์เชียพบกับความปราชัย (สงครามครั้งนี้ทำให้เกิดตำนานวิ่งมาราธอน ของวีรบุรุษชื่อ Phedippedes) แม้เปอร์เซียจะพ่ายแพ้พระเจ้าดาริอุสผู้โกรธแค้น ยังมิยอมเลิกลาแผนการที่จะลงโทษกรีก กลับมาเตรียมทัพที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม หมายพิชิตศึกให้สำเร็จใช้เวลาเตรียมทัพนานราว 10 ปี กำลังคนราว 5 ล้านคน (จากบันทึกประวัติศาสตร์ของกรีก แต่นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ลงความเห็นว่าราว 5 แสนคน) แต่ยังไม่ทันที่จะเคลื่อนทัพ พระเจ้าดาริอุสก็สวรรคตลงเสียก่อน ซึ่งสงครามลงโทษกรีกครั้งที่ 1 นี้ในบทภาพยนตร์ได้มีการนำไปอ้างถึงเหตุแห่งสงครามอันต่อเนื่องนี้อย่างสั้น ๆ ในฉากประชุมสมัชชาประชาชนในสปาร์ต้าช่วงเกือบจะตอนท้าย ๆ เรื่องครับ
สงครามลงโทษกรีกครั้งที่ 2 (ราว 480 ปีก่อน ค.ศ.) หลังจากสิ้นสมัยของพระเจ้าดาริอุสโอรสของพระองค์ พระเจ้าเซอร์ซีส (Xerxes) ขึ้นครองราชเป็นกษัตริยแทน ภาพยนตร์เรื่อง 300 ได้นำเอาช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ของการสู้รบในรัชสมัยของพระเจ้าเซอร์ซีส ที่ได้ทำสงครามลงโทษกรีกสืบต่อจากพระบิดา และนำทัพมาด้วยพระองค์เอง ชนวนเหตุที่ทำให้เกิดสงครามจากการที่ผู้นำสารเปอร์เซีย นำเนื้อความในสารมาแจ้งข่าวแต่ทางสปาร์ต้าปฏิเสธ (แถมโดนถีบตกท่อ) ตามที่ภาพยนตร์ได้นำเสนอจึงไม่ใช่ชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้สปาร์ต้าต้องเข้าร่วมสงคราม แต่สปาร์ต้าจำที่ต้องร่วมสงครามในครั้งนี้ อันเนื่องมากจากกองทัพอันมโหฬารที่ทางเปอร์เซียกำลังรุกคืบเข้ามานั้น นครรัฐต่าง ๆ ของกรีกรู้แก่ใจดีว่าถ้าไม่รวมกำลังกันเข้าต่อต้าน ไม่ช้ากองทัพเปอร์เซียก็จะบดขยี้นครรัฐของกรีกทีละเมืองจนหมดสิ้นทุกนครรัฐ เป็นอันว่าทูตเปอร์เซียตกท่อตายไปฟรี ๆ
ทูตเปอร์เซียตั้งแต่แรกมาถึงจนโดนถีบตกท่อ
จากการที่ กษัตริย์เลโอนิดัส ปฏิเสธผู้นำสารเปอร์เซีย และการกระทำของพระองค์ที่จะเรียกว่าชักศึกเข้าบ้านก็คงจะไม่ผิดนัก ทำให้ เลโอนิดัส ต้องปีนเขาขึ้นไปพบกับพวกอีเฟอร์ (Ephor) โดยผู้บรรยายในภาพยนตร์ได้กล่าวว่า ในทำนองที่ว่า "พวกอีเฟอร์นักบวชนับถือเทพโบราณ เหล่ากษัตริย์สปาร์ต้าจะต้องขอพรจาก พวกอีเฟอร์ ก่อนที่จะออกไปทำศึกเป็นธรรมเนียมปฏิบัตินั้นคือกฏ โดยที่ชาวสปาร์ตัน ไม่เว้นแม้แต่กษัตริย์ ก็ต้องทำตามกฏ" เนื้อเรื่องในภาพยนตร์ พวกอีเฟอร์ห้ามไม่ให้ เลโอนิดัสทำศึกอันเนื่องมากจากต้องฉลองเทศกาล คาร์เนอาร์ (Carneia , Karneia) เทศกาลคาร์เนอาร์ที่ว่าสำคัญอย่างไร? เทศกาล คาร์เนอาร์ เป็นเทศกาลเก่าแก่ทางความเชื่อที่สำคัญของชาวดอเรียนโบราณที่พูดภาษากรีก (สปาร์ต้า) มีระยะเวลา 9 วันในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี (แต่ตามบันทึกของ เฮโลโดตัส ฤดูร้อน 480 ปีก่อน ค.ศ. เทศกาลคาร์เนอาร์ในสปาร์ต้าอยู่ในระหว่างวันที่ 10 -18 กันยายน) เทศกาลนี้จะมีการจัดพิธีกรรมเพื่อสักการะถึงพลังของเทพ Apollo ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ แล้วพวกอีเฟอร์ทำไมจึงมีอำนาจสั้งกษัตริย์อย่างเลโอนิดัสได้ เลโอนิดัสจำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังพวกอีเฟอร์หรือไม่ เมื่อจะกล่าวถึงบทบาท และความเป็นมาของพวก อีเฟอร์ สิ่งที่จะต้องนำมาพิจารณาประกอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นก็คือรูปแบบการปกครองของ สปาร์ต้า
ตามประวัติศาสตร์การปกครองของชาวสปาร์ตัน มีรูปแบบที่ประกอบไปด้วย
  • กษัตริย์ที่มีอำนาจเท่า ๆ กัน 2 พระองค์ ปกครองสปาร์ต้า และประกอบพิธีสำคัญทางศาสนา
  • สภาผู้เฒ่า (หรือสภามนตรี) ขุนนางที่อายุเกิน 60 ขึ้นไป 28 คน และ กษัตริย์ 2 องค์ ดำรงตำแหน่งตลอดชีพ ทำหน้าที่บริหาร เป็นที่ปรึกษา ตุลาการ นำงานเสนอต่อสมัชชาประชาชน สมาชิกสภาผู้เฒ่าเลือกมาจากการลงความเห็นในสมัชชาประชาชน
  • สมัชชาประชาชน มาจากชายชาวสปาร์ตัน อายุเกิน 30 ขึ้นไป มีหน้าที่ตอบเพียง เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย กับงานที่สภาผู้เฒ่านำมาเสนอเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ในการเลือกสมาชิกสภาผู้เฒ่า และเจ้าหน้าที่บริหารที่เรียกว่า "อีเฟอร์"
การประชุมสภาของสปาร์ตาร์
แต่ในทางปฏิบัติแล้วอำนาจสูงสุดของสปาร์ต้าอยู่กับคณะบุคคล 5 คน คือ อีเฟอร์เรท (Ephorate) พวกอีเฟอร์ทั้ง 5 ดำรงตำแหน่งครั้งละ 1 ปี และสามารถได้รับเลือกอีกโดยไม่มีกำหนด พวกอีเฟอร์เป็นทั้งประธานในสภาผู้เฒ่า และสมัชชาประชาชน จึงทำให้มีอำนาจอย่างแท้จริง สามารถระงับพระราชบัญญัติทุกฉบับ ควบคุมชีวิตของเด็กชาวสปาร์ตันที่เกิดซึ่งถือเป็นสมบัติของรัฐ กำหนดนโยบายการศึกษา จากความเห็นส่วนตัวแล้ว อำนาจที่พวกอีเฟอร์มีอยู่จริง จึงไม่น่าที่จะเป็นอุปสรรคที่จะอนุมัติ หรือปฏิเสธให้ทำศึก โดยที่กษัตริย์สปาร์ต้าต้องยอมรับโดยปริยาย
Ephorate ทั้ง 5
เนื่องจากถูกปฏิเสธจากพวกอีเฟอร์ ที่จะให้ทำสงคราม กษัตริย์เลโอนิดัส จึงแอบเกณฑ์ทัพเป็นกลุ่มเล็ก ๆ โดยมีนายทหารจำนวน 300 คน เพื่อหมายที่จะเข้าร่วมในสงครามที่กำลังจะเกิดโดยยากที่จะหลีกเลี่ยง แม้จะมีกำลังพลเพียงเล็กน้อย หรืออาจจะเรียกได้ว่าแทบไม่มีเลยเมื่อเปรียบเทียบกับ กองทัพมหึมาของเปอร์เซีย แต่กษัตริย์เลโอนิดัสก็ได้มีการคิดแผนการรับมือ ได้อย่างแยบยลโดยอาศัยความได้เปรียบทางภูมิประเทศของกรีกนั้นก็คือการตั้งทัพรับการบุกของเปอร์เชียในช่องเขาที่แคบ และความชำนาญศึกของนักรบชาวสปาร์ตัน จำนวนที่เป็นต่อของเปอร์เซีย ก็จะไม่มีความหมาย แผนการณ์นี้ทำให้กษัตริย์เลโอนิดัส คิดว่าจะพลิกสถาณะการณ์การตกเป็นรองของตนได้
ในระหว่างที่เดินทัพออกจากสปาร์ต้าไปยังช่องแคบ เธอร์โมไพลา (Thermopylas) นั้นกองทัพขนาดย่อยของสปาร์ต้าก็ได้พบกับทัพของ พวกกรีกด้วยกันที่มารวมทำศึก ก็คือทัพของพวก แอคเคียน (Arcade ชาวนครรัฐของกรีกจากเมือง Arcadia) พวกแอคเคียนประหลาดใจในทัพของสปาร์ต้าที่ กษัตริย์เลโอนิดัส นำทัพมามีจำนวนที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็นจึงเอ่ยถามความต่อ กษัตริย์เลโอนิดัส แต่กษัตริย์เลโอนิดัส กลับย้อนถามกลับไปยังชาวแอคเคียน จากคำสนทนาในบทภาพยนตร์ที่ว่า " เจ้าคนนั้นแอคเคียนเจ้าทำอาชีพอะไร (you Arcade? Which his profession?) " กษัตริย์เลโอนิดัสหันกลับไปถามสปาร์ตาร์ว่า "สปาตันพวกเจ้ามีอาชีพอะไร (Spartan! Which its profession?) เห็นหรือไม่เพื่อนยาก ข้านำทัพนักรบมามากกว่าเจ้า (Did he see, friend? It brought more military than you.) " จากบทสนทนาในภาพยนตร์นี้แสดงให้เห็นถึงความภูมิใจในการเป็นนักรบที่แข็งแกร่งของชาวสปาร์ตัน ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากพวกดอเรียนแท้ ๆ โดยที่ชาวสปาร์ตันเชื่อว่าตนมีสายเลือดมาจากเทพเจ้า เฮอร์คิวลิส (Hercules) ถึงอย่างไรก็ตามแม้ชาวสปาร์ตันจะเป็นนักรบที่เก่งกาจ ได้รับการยอมรับจากชาวนครรัฐต่าง ๆ ของกรีก แต่ก็ถูกชาวกรีกดูหมิ่นว่าเป็นพวกไร้อารยธรรม และโง่เขลา ซึ่งชาวสปาร์ต้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกไม่รู้หนังสือ อีกทั้งยังมีนิสัยชอบเก็บตัวอยู่ในนครรัฐของตนไม่คบค้า หรือยอมรับอารยธรรมจากภายนอก จึงเป็นเหตุให้สปาร์ต้าล้าหลังทางอารยธรรม
กองทัพขนาดย่อมเริ่มออกเดินทาง
เนื้อเรื่องของภาพยนตร์ในฉาก Action ทั้งหมดจะอยู่ในตอนที่ทัพสปาร์ต้าเดินทางมาถึงช่องแคบ เธอร์โมไพลา เป็นฉากของการสู้รบที่ดุเดือดผสาน อยู่กับความประทับใจในการเสียสละ สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวของกองทัพขนาดเล็กที่รวมใจกันต่อสู้กับกองทัพขนาดใหญ่ มีแขนหลุด ขาหลุด (หัวหลุดก็มีให้ชมครับ!!!) เลือดสาด กันท่วมจอ สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้ามีเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีรับชมควรมีผู้ใหญ่ให้คำแนะนำครับ เพราะเนื้อหาในฉาก การสู้รบนั้นโหดร้ายนับได้ว่าเป็นหนังติดเรทเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว สมรภูมิ เธอร์โมไพลา ทัพสปาร์ต้าตั้งทัพเตรียมรับมือการบุกจากเปอร์เซียที่นำทัพโดยกษัตริย์ เซอร์ซิส เดินทางมาทางบกผ่านช่องแคบ ดาร์แดนเนล (Dardanells) ลงมาจากทางเหนือ โดยมีกองทัพเรือขนาดมหึมาล่องขนาบไปตามชายฝั่ง จนไปถึงช่องแคบ เธอร์โมไพลา ทัพกรีก ดักรอตั้งรับอยู่ ในภาพยนตร์มีการต่อสู้ตะลุมบอนกันยกใหญ่ที่ ช่องแคบ เธอร์โมไพลา แต่สาเหตุที่ทำให้เหลือ แค่ทัพของสปาร์ต้าเพียง 300 คนที่ยันการบุกในครั้งนี้ โดยไม่มีทัพกรีกอื่นอยู่คอยช่วยเหลือ ตามประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อ ทัพของเปอร์เซียเห็น กรีกตั้งรับอยู่บริเวณช่องแคบเธอร์โมไพลา ทัพเรือของเปอร์เซียที่ขนาบคู่มากับทัพบก หันหัวเรือกลับไปขึ้นบกตามชายฝั่งเพื่อเข้าโจมตีนครรัฐอื่นที่ไม่มีกำลังในการต่อต้าน กองทัพกรีกจึงถอนกำลังที่ตรึงไว้บริเวณช่องแคบ เธอร์โมไพลา ไปสกัดทัพเรือของเปอร์เซียที่ตามแนวชายฝั่ง เหลือไว้เพียงนายทหาร 300 ชีวิตของสปาร์ต้าค่อยยันการบุกของทัพบกเปอร์เซียที่ช่องแคบเธอร์โมไพลา แต่ด้วยความชำนาญศึกของนักรบสปาร์ต้าเพียง 300 นาย สามารถตรึงการบุกของทัพบกเปอร์เซียรวมทั้งสังหารนักรบเปอร์เซียไปหลายพันนาย หลังจากต้านการบุกของเปอร์เซียอยู่เป็นเวลาหลายวัน ก็มีผู้ที่ทรยศในหมู่ชาวกรีกนำความเรื่องของเส้นทางลับไปแจ้งให้แก่พวกเปอร์เซีย กษัตริย์เซอร์ซิสจึงนำทัพเคลื่อนไปยังเส้นทางลับอ้อมเข้าไปตลบหลังกองกำลังของสปาร์ต้า แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เข้าตาจนนักรบสปาร์ต้าทั้งหมดยืนหยัดต่อสู้จนตัวตาย แต่ไม่ยอมศิโรราบให้แก่เปอร์เซีย ในบทภาพยนตร์นักรบชาวสปาร์ตันมักจะกล่าวถึงการได้ รับเกียรติจากการเสียชีวิตในสมรภูมิอยู่บ่อยครั้ง ความรู้สึกเช่นนี้ของนักรบชาวสปาร์ตันทำให้มีจิตใจที่แข็งแกร่งไม่หวาดกลัวต่อความตาย เราจึงได้เห็นว่าเกียรติยศในสมรภูมิที่ผู้สร้างได้แสดงผ่านแผ่นฟิมล์ โดยเหล่านักรบสปาร์ตันทั้ง 300 นายได้พยายามสู้ศึกจนลมหายใจสุดท้าย โดยไม่ก้าวถอยแม้แต่ก้าวเดียวมีความน่าประทับใจ และน่านับถือเป็นอย่างยิ่ง
ผลของสงครามเป็นอย่างไร ในบทภาพยนตร์เองไม่ได้กล่าวถึงบทสรุปของสงครามในครั้งนี้นะครับ เหลือทิ้งไว้ให้ผู้ชมต้องฝันค้างต่อไปกันเอง ฉะนั้นในส่วนนี้ภาพยนตร์จะไม่กล่าวถึงนะครับถือเป็นของแถมสำหรับคนช่างสงสัยละกันครับ สำหรับผลของสงครามในครั้งนี้ ฝ่ายเปอร์เซียเป็นฝ่ายได้รับความปราชัย (อีกแล้ว) ทำไมจึงปราชัยนำกองทัพมาใหญ่โตขนาดนั้น? เนื่องจากการบุกของกองทัพเปอร์เซียในทางบกนั้น ทางกองทัพกรีกซึ่งมีจำนวนพลที่เป็นรอง ไม่สามารถต้านทานการโหมบุกของเปอร์เซียได้จึงใช้แผนการโดยอพยพผู้คนออกจากเมือง เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดแล้วไปฝากความหวังในการศึกครั้งนี้ไว้กับทัพเรือ จึงหมายความว่าถ้าเปอร์เซียต้องการชนะสงครามในครั้งนี้ต้องเอาชนะทัพเรือของกรีกให้ได้นั้นเอง (ประมาณว่าเข้าไปในเมืองแล้วเจอแต่ความว่างเปล่า) ยุทธนาวีของกรีกที่ใช้ในการต่อกร เรือของเปอร์เซีย ก็คือ อาศัยความได้เปรียบทางภูมิประเทศในทะเล กับความคล่องตัวของเรือซึ่งมีขนาดที่เล็กกว่า โดยเรือของเปอร์เซียนั้นมีขนาดที่ใหญ่และช้า ประกอบกับมีจำนวนที่มากจึงทำให้ไม่คล่องตัวในบริเวณท้องทะเลที่แคบ (บริเวณเกาะ แซรามิส Selamis) ในการสู้รบในทะเลวันแรกปรากฏ ว่ากองเรือของกรีก สามารถจมเรือของเปอร์เซีย ไปได้ราว 200 ลำ! ถัดมาอีกหลายวันเปอร์เซียสูญเสียเรือเป็นจำนวนมากจากการสู้รบในทะเล ทำให้กษัตริย์เซอร์ซิส สิ้นหวังที่จะเอาชนะจึงถอนกำลังกลับไป จึงเป็นการสิ้นสุดสงครามลงโทษกรีกครั้งที่ 2 ถือเป็นชัยชนะอันชาญฉลาดของชนชาติกรีกที่มีจำนวนพลน้อยกว่า
สงครามทางเรือที่ทำให้กรีกได้รับชัยชนะ
การนำเสนอของเรื่องราวในภาพยนตร์มีโครงเรื่องที่อิงจากประวัติศาสตร์ และมีการปรุงแต่งเนื้อหาสอดแทรกจิตนาการของผู้สร้างอยู่บ้างเพื่อความบันเทิงในการรับชม จากความเห็นส่วนตัวนะครับภาพยนตร์เรื่องนี้มีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร อันดับแรกที่ควรจะต้องกล่าวถึงคือ ในส่วนของภาพของความรุนแรงในฉากสู้รบผู้สร้างนั้นทำออกมาได้อย่างดุเดือด และออกไปทางแนวดิบเถื่อน ซะจนถ้าใครมีบุตร หลาน เล็ก ๆ ไม่ควรให้รับชมเป็นอย่างยิ่ง หรือควรมีผู้ใหญ่ค่อยให้คำแนะในระหว่างการรับชม ผมขอจัดว่า 16+ แล้วกัน ทุนต่ำกำไรสูงทำได้อย่างไร สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้จะครับการถ่ายทำส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในสตูดิโอ ใช้ทุนสร้างไม่สูงนักแต่กวาดรายได้มหาศาล อาศัยขายจากความน่าสนใจในตัวของบทภาพยนตร์มากกว่า ขายความยิ่งใหญ่อลังการจากทุนสร้าง ผลสืบเนื่องจากการที่เน้นการถ่ายทำส่วนใหญ่อยู่ในสตูดิโอ ข้อจำกัดในเรื่องของมุมกล้อง ถ้าใครที่ได้รับชมไปแล้วพอจำกันได้นะครับว่า มุมกล้องส่วนใหญ่จะถ่ายทำออกมาในลักษณะ มุมแคบ ๆ และ เน้นมุมถ่ายขึ้นบน (มุมเงย) การถ่ายแบบนี้ส่วนใหญ่จะพบเห็นได้จากภาพยนตร์เก่า ๆ ในสมัยก่อน แต่ก็ดูคลาสสิกไปอีกแบบสำหรับมุมภาพลักษณะนี้ในภาพยนตร์ 300 ได้บรรยากาศดูเก่า ๆ (หรือเปล่า?) เหมาะกับเนื้อหา ลักษณะของภาพ ตลอดทั้งเรื่องจะดูไม่ค่อยสว่าง เป็นภาพยนตร์แนว สลัว ๆ ซึ่งดูแล้วก็เหมาะสมกันดีกับเหตุการณ์ที่นำเสนอ แต่ผู้ชมบางท่านก็ไม่ชื่นชอบภาพในลักษณะนี้ แล้วแต่ความชอบแล้วกันครับ ในเรื่องของเสียงประกอบภาพยนตร์ ทำออกมาได้ค่อนข้างเยี่ยม ไม่รู้สึกสะดุด หรือขัดกับอารมณ์ให้เสียอรรถรส แต่ก็มีบ้างที่บางครั้งเกิดเสียงสะท้อนในบางฉากอย่างที่ไม่ควรจะเป็น น่าจะเกิดจากข้อจำกัดของการถ่ายในสตูดิโอ เรื่องของฉากในภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะได้เห็นทิวทัศน์น้อยมากหรือแทบจะไม่มี มุมกล้องแทบไม่กดลงให้ชมกันเลย (ก็อยู่ในสตูดิโอมันจะมีให้เห็นยังไงทิวทัศน์ที่ว่า) ดาราที่นำแสดงในเรื่องนี้สำหรับผมนับว่าไม่ขัดใจ ทั้งบทบาท หน้าตา เอาเป็นว่าถูกใจผมครับ ถ้าจะพิจารณาองค์ประกอบโดยรวมนับว่าภาพยนตร์เรื่อง 300 ทำออกมาได้ถูกใจตามมาตรฐานของผมเลยทีเดียว การสื่อระหว่างตัวภาพยนตร์กับผู้รับชม ทำให้เกิดอารมณ์รวมไปกับเรื่องราวได้อย่างครบถ้วน หลากหลายความรู้สึก ผมขอชื่นชมครับ
แง่คิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ ความสามัคคี และเสียสละภักดี ทั้ง 300 นายที่มีความสามัคคีซึ่งกันและกัน ถึงแม้จะมีกำลังเพียงน้อยนิดแต่ด้วยความเป็นอันนึงอันเดียวกัน ก็ยากที่จะล้มลงได้ แม้เคราะห์กรรมนั้นจะหนักหนาแค่ไหน ดังถ้อยคำที่ กษัตริย์เลโอนิดัส กล่าวในบทภาพยนต์ถึงยุทธวิธีการรบกลุ่มของสปาร์ต้าในฉากหนึ่งว่า " เราสู้ กันเป็นกลุ่มไม่มีใครตีแตกได้ (we Fight like an impenetrable and unique unit.) นั้นคือความแข็งแกร่งของพวกเรา (This is the fountain of our strength.) นักรบแต่ละคนปกป้องคนทางซ้ายของตน (Each spartan it protects him man to its left...) จากต้นขา ถึงคอ ด้วยโล่ (..of the thigh to the neck with his shield.) หากมีจุดอ่อนเพียงจุดเดียวกลุ่มรบก็จะแตกได้ (Sufficiency a weak link for it phalanx be torn up.) " การเสียสละและภักดีของนักรบ ทั้ง 300 นายต่อ กษัตริย์ของตน และต่อแผ่นดินของตน แม้จะรู้ว่าการศึกครั้งนี้เป็นตายเท่ากันแต่ก็ไม่มีนักรบคนใด ละทิ้งศึกและพร้อมสละชีพเพื่อสิ่งที่เขาคิดว่ายิ่งใหญ่กว่า อย่างใจเด็ดเดียวจนลมหายใจสุดท้าย
แต่ข้อคิดที่สำคัญที่สุดในภาพยนตร์เกี่ยวกับสงคราม ในหลาย ๆ เรื่อง การสูญเสีย.... เมื่อเกิดสงครามย่อมมีการสูญเสีย พ่อแม่สูญเสียลูก ลูกกำพร้าพ่อ พี่น้อง ต้องพลัดพราก ผู้คนเจ็บปวดจากภัยสงคราม พิกลพิการ บางครั้งฉากอันน่าประทับใจของวีรบุรุษในสงคราม อาจทำให้เราชื่นชมจนลืมที่จะสังเกตเห็นภาพที่มนุษยชาติ เข้าสังหารทำลายล้างซึ่งกันละกัน วีรบุรุษสงคราม พระเอกของเรื่องราวอันน่าภูมิใจที่สร้างขึ้นมากจาก กองซากศพในสนามรบ และในบางครั้งก็จะปะปนไปด้วยซากศพของพลเรือนที่เป็นผู้บริสุทธิ์ซึ่งตกเป็นเหยื่อ สิ่งนี้คุ้มค่าหรือไม่กับคำว่า วีรบุรุษ หรือ ตำนาน แง่คิดในส่วนนี้จากการดูภาพยนตร์ในสงครามไม่ว่าเรื่องใด ๆ ก็ตามนะครับ ผมอยากให้นอกจากดูเรื่องราวของตัวเอกในเรื่องอยากให้ทุกคนมองไปถึงเรื่องของความสูญเสียที่เกิด ประวัติศาสตร์สอนให้คนเรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น เราควรจะตระหนักถึงผลที่เกิดในอดีต และนำพาอนาคตไปสู่สิ่งที่ดีกว่าอดีตที่ได้เรียนรู้ ขึ้นอยู่กับผู้ชมแต่ละท่านครับว่าต้องการให้อนาคตเป็นอย่างไร " อนาคตแห่งวีรบุรษ " หรือ " อนาคตแห่งสันติภาพ "







Warm Bodies ซอมบี้ที่รัก

Warm Bodies ซอมบี้ที่รัก (มงคลเมเจอร์)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊กภาพยนตร์ Warm Bodies

กำหนดฉาย : 14 กุมภาพันธ์ 2556
แนว : Drama / Horror / Romance
นำแสดง : นิโคลัส ฮอลท์, เทเรซา พาล์มเมอร์, จอห์น มัลโควิช, ร็อบ ค็อดดรี้
กำกับ : โจนาธาน เลวีน

เรื่องย่อ Warm Bodies

          ไม่ว่าใครก็สามารถตกหลุมรักได้ แม้กระทั่งซอมบี้ ตราบใดที่หัวใจของเขายังคงอยู่ในร่างกาย... 

          Warm Bodies คือภาพยนตร์โรแมนติกระทึกขวัญฟอร์มยักษ์ที่สร้างมาจากนิยายดัง ผลงานจากผู้กำกับ โจนาธาน เลวิน แห่ง 50/50 ที่จะนำพาทุกท่านไปพบกับ เรื่องราวความรักเกินคาดเดา ระหว่างมนุษย์และซอมบี้สุดแหวกแนว พบการขึ้นจอของ 2 นักแสดงวัยรุ่นมาแรง นิโคลัส ฮอลท์ หนุ่มหน้าใสจาก About a boy และล่าสุดแสดงใน X-men first class กับ เทเรซ่า ปาล์มเมอร์แห่ง The Sorcerer’s Apprentice และ I Am NumberFour สมทบด้วย จอห์น มัลโควิช




           Warm Bodies เป็นเรื่องของซอมบี้ที่เรียกตัวเองว่า อาร์ (รับบทโดย นิโคลัส ฮอลท์ หนุ่มน้อยหน้าใสจาก About A Boy และล่าสุดใน X-Men: First Class) ที่อาศัยอยู่ในโลกที่แทบไม่หลงเหลือมนุษย์ วันหนึ่งเขาได้สัมผัสถึงความทรงจำอันอบอุ่นจากเหยื่อ และตกหลุมรักสาวสวยที่ชื่อ จูลี่ (เทเรซา พาล์มเมอร์ จาก The Sorcerer's Apprentice) ถึงแม้หัวใจของ อาร์ จะหยุดเต้นไปแล้ว แต่วินาทีแรกที่เขาได้เห็น จูลี่ มันทำให้เขารู้สึกถึงเหตุผลของการมีชีวิตตั้งแต่ที่เขาตาย และก็อาจเป็นครั้งแรกที่เขาต้องการกลับมามีชีวิตอีกครั้ง


warm bodies


เกร็ดภาพยนตร์


          • Warm Bodies สร้างจากนวนิยายของ ไอแซ็ค มาเรียน ที่ถูกขยายมาจากเรื่องสั้นของตัวเองที่ชื่อ I Am a Zombie Filled With Love โดยเรื่องราวก็เป็นแนวทางที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน นั่นคือ "โรแมนติกซอมบี้" โดยผู้กำกับ โจนาธาน เลอวีน ที่เพิ่งมีผลงานคุณภาพอย่าง 50/50 ที่เข้าชิงสองรางวัลลูกโลกทองคำ รวมถึง โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม โดยเขาก็พูดถึงสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการหยิบหนังสือเล่มนี้มาสร้างเป็นหนังว่า "ผมคิดว่าหนังสือเล่มนี้มีความพิเศษเฉพาะตัว และมันก็เป็นโอกาสของผม ในการผลักดันตัวเองเพื่อทำหนังที่มีสโคปที่ยิ่งใหญ่ มีการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น และความรักที่ไม่มีใครคาดถึงมาก่อน ผมคิดว่า Warm Bodies มอบความรู้สึกที่น่ากลัว ตลก สนุก และประทับใจ มันเกี่ยวกับการมีชีวิตแต่รู้สึกเหมือนกับว่าไม่มีชีวิต และการไม่มีชีวิตแต่ต้องการที่จะกลับมามีชีวิต"

warm bodies

          • เทเรซา พาล์มเมอร์ นักแสดงสาวชาวออสเตรเลีย ที่มีผลงานที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง The Sorcerer's Apprentice และ Take Me Home Tonight เข้ามารับบทเป็น จูลี่ มนุษย์ผู้หญิงที่ถูก อาร์ จับตัวไป แต่แล้วเธอก็พบว่าซอมบี้หนุ่มคนนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด และเริ่มเห็นเขาในมุมมองที่แตกต่างออกไป อย่างไรก็ตามเธอก็คือลูกสาวคนเดียวของนายพล ที่รักษาปราการด่านสุดท้ายของเผ่าพันธุ์มนุษย์เอาไว้ โดย พาล์มเมอร์ ก็ได้พูดถึงความรู้สึกของเธอต่อหนังเรื่องนี้ว่า "ฉันคิดว่า Warm Bodiesมีดีเอ็นเอเดียวกับ โรมิโอ และ จูเลียต โดยเฉพาะ จูลี่ และ อาร์ ที่ถึงแม้ว่าจะอยู่บนโลกที่ไม่มีอยู่จริง แต่อารมณ์ก็ยังยึดติดอยู่กับความจริง มันไม่ใช่ที่เธอเห็นเขาแล้วตกหลุมรักทันที เธอเริ่มมีความรู้สึกตั้งแต่กลัว โกรธ เสียใจ ไม่แน่ใจ จนกระทั่งความรู้สึกที่เธอไม่สามารถอธิบายได้ ฉันคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหนังมีความงดงามที่สุด"






ไทเก๊ก หมัดเล็กเหล็กตัน

 หยางลู่ฉาน เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์พิเศษในตัว แต่กระนั้นเขาก็ถูกล้อเลียนว่าเป็นตัวตลกประจำเมือง แม่ของหยางจึงกระตุ้นให้เขาฝึกฝนวิชาการต่อสู้ โดยการเดินทางไกลไปหมู่บ้านเฉินอันเลื่องชื่อ เพื่อเรียนเพลงมวยไทเก๊ก ทว่าในหมู่บ้านเฉิน มีกฎเหล็กอยู่หนึ่งข้อคือห้ามเผยแพร่วิชาไทเก๊กแก่คนภายนอก ทันทีที่หยางเดินทางมาถึง เขาก็ถูกคนในหมู่บ้านท้าประลองฝีมือ นับตั้งแต่ผู้ชายแข็งแกร่ง, ผู้หญิงอ้อนแอ้น ไปจนถึงเด็กตัวเล็ก ๆ ทุกคนสามารถเอาชนะหยางได้หมด หลังจากผ่านการต่อสู้อันหนักหน่วง และพ่ายแพ้แก่ ยื่อเหนียง ลูกสาวคนสวยของ ปรมาจารย์เฉิน เจ้าหนุ่มหยางก็ยิ่งเลื่อมใสในวิชาไทเก๊ก และยิ่งอยากพบปรมาจารย์เฉินเพื่อขอฝากตัวเป็นศิษย์ แต่หยางหารู้ไม่ว่าชายแปลกหน้าซอมซ่อผู้ช่วยเขาไว้ในการประลองกับยื่อเหนียง ก็คือปรมาจารย์เฉินนั่นเอง เฉินสัมผัสได้ถึงความพิเศษในตัวชายหนุ่มคนนี้ เขาจึงแอบถ่ายทอดเพลงมวยไทเก๊กให้หยางอย่างลับ ๆ

          จนกระทั่งวันหนึ่ง หมู่บ้านเฉินก็ถูกรุกรานโดยการมาเยือนของ ฝางซื่อชิง เพื่อนในวัยเด็กของยื่อเหนียง ผู้นำคำสั่งราชการมาบอกให้คนในหมู่บ้านยอมรับว่า เขามีสิทธิ์สร้างทางรถไฟตัดตรงเข้ามายังหมู่บ้าน นั่นทำให้หยางต้องผนึกกำลังกับยื่อเหนียง เพื่อขัดขวางไม่ให้ฝางซื่อชิงและเครื่องจักรพิฆาตของเขาทำงานสำเร็จ ในที่สุดความกล้าหาญของหยางก็สามารถเอาชนะใจยื่อเหนียงและคนในหมู่บ้านได้





คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์

คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์ (สหมงคลฟิล์ม)


เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือก คนที่ "ใช่" กับคนที่ "ใกล้"
3 วัน 2 คืน พอไหมที่จะเลือก "ตกหลุมรัก" ใครสักคน
สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกับ บาแรมยู และ เลเซอร์แคท
ขอเชิญทุกคนไปสนุกกับแพ็คเกจรักวัดใจ
ในหนังรั่วกันมันส์รักกันมาก
ผลงานการเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกในชีวิต
ของ แดน - วรเวช ดานุวงศ์

กับการพบกันครั้งแรกของ

แดน - วรเวช ดานุวงศ์, แพทตี้ - อังศุมาลิน  สิรภัทรศักดิ์เมธา, บีม - กวี
ตันจรารักษ์, นุช - นีรนาท วิคทอเรีย โคทส์ 

ควบคุมการสร้างแบบสบายใจโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว 
อำนวยการสร้างออกทุนแบบอารมณ์ดีโดย เสี่ยเจียง - สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ

เรื่องย่อ คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์
          มีอะไรในคืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์

           บางทีอาจจะเป็นเพราะสนามแม่เหล็กของพรหมลิขิต ที่ดึงเรามาเจอกันผิดเวลา

           บางทีอาจจะเป็นเพราะเราต้องรอถามตัวเองว่าเขาใช่หรือไม่

           บางทีอาจจะเป็นเพราะเราต้องการหาคนที่จะมี "จังหวะ" ตรงกับหัวใจ

           บางทีอาจจะเป็นมนต์เสน่ห์ใน... คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์

           ชวด (รับบทโดย แดน - วรเวช ดานุวงศ์) หนุ่มครีเอทีฟ-โปรดิวเซอร์ประจำรายการ เรียลลิตี้ 24 ชั่วโมง ตามติดชีวิตซุป’ตาร์ "หมาแพนดี้" รายการทีวีที่หวังว่าจะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ชนิดรายการหมีแพนด้าต้องชิดซ้าย ชวดตกหลุมรัก ต้นหลิว (รับบทโดย นุช - นีรนาท วิคทอเรีย โคทส์) พิธีกรสาวสวยทรงเสน่ห์จากรายการ "ที่ซ่อนผี" ที่ดึงดูดให้หนุ่ม ๆ ทั้งประเทศต้องหยุดที่หน้าจอจนรายการเรตติ้งกระฉูด เขาหลงต้นหลิวอย่างหัวปักหัวปำ จนตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนี้ขอลองดีสักหน่อย เลยตั้งใจจะจีบต้นหลิวอย่างจริงจัง แต่คนที่แค่เห็นหน้าสาวก็ขาสั่นอย่างชวดครั้งนี้ดูจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก เพ็ญ (รับบทโดย แพทตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) สาวพีอาร์สวยใสหัวใจโชเชียล เพื่อนสนิทซี้ย่ำปึ๊กของต้นหลิว ที่ชวดบังเอิญเจอและตัดสินใจว่านี่แหละคนที่จะมาช่วยเขาตัดถนนสร้างทางด่วนตรงสู่หัวใจ ต้นหลิว

           เพ็ญยอมช่วยเหลือชวดด้วยความจำยอมเพราะโดนตื้อไม่หยุด ทางด้านเพ็ญเองก็มีแฟนแล้วคือ ปกป้อง (รับบทโดย บีม - กวี ตันจรารักษ์) คุณหมอหนุ่มสุดเพอร์เฟคทั้งหล่อทั้งรวย ที่ดูแลเพ็ญเป็นอย่างดีสมชื่อปกป้อง จนเหมือน "พ่อ" ซะมากกว่าแฟน คอยคุมทุกอย่างในชีวิตเพ็ญให้เป๊ะ ๆ จนบางครั้งเพ็ญก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกทำให้พวกเขามาพัวพันกัน ที่นำไปสู่การค้นพบคำตอบของ "ความรัก" ผ่านบทพิสูจน์ของหัวใจที่จะเกิดขึ้น ภายใน 3 วัน 2คืน ช่วงเวลาต้องมนต์สั้น ๆ ที่เรียกว่า คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์


  ใครเป็นใครใน คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์    


ชวด รับบทโดย แดน - วรเวช ดานุวงศ์  


           ครีเอทีฟรายการทีวี มีความคิดสร้างสรรค์อย่างแปลก ๆ ไม่เหมือนใคร คิดเร็วทำเร็วจนบางครั้งดูเป็นคนประหลาด แต่จริง ๆ เป็นหนุ่มจิตใจดี  มีสไตล์การใช้ชีวิตในแบบตนเอง แต่ค่อนข้างขี้อายไม่กล้าจีบต้นหลิวผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบ เพราะทุกครั้งที่เขาเผยความเป็นตัวเองออกไปผู้หญิงคนไหนต้องหนี ชวดจึงขอคำแนะนำจากเพ็ญเพื่อนสนิทของต้นหลิว จนเป็นที่มาของเรื่องราวยุ่งเหยิง

          ความฝันแรกของแดนเริ่มต้นที่การอยากเป็น "นักฟุตบอลมืออาชีพ" แต่แล้วเส้นทางชีวิตก็เปลี่ยนผันมาสู่การร้องเพลง นอกจากเบื้องหน้าแล้วก็ยังทำงานเบื้องหลังในฐานะโปรดิวเซอร์, นักเขียน, นักแต่งเพลง, ไปจนถึง ครีเอทีฟ, มิวสิคไดเร็คเตอร์ และโชว์ไดเร็คเตอร์ ในงานคอนเสิร์ต, เขียนบทและเป็นถึงผู้จัดละครโทรทัศน์, ผู้กำกับมิวสิควิดีโอ และผู้กำกับภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์อย่าง"บันทึกกรรม"

           แดนเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวดร้องเพลงในโครงการ "พานาโซนิค สตาร์ ชาเลนจ์" ในปี พ.ศ. 2543 ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 2 ในการแข่งขันระดับประเทศ (ที่ 3 ของประเทศ) ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด อาร์เอส โปรโมชั่น มาเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกวง D2B (ดีทูบี) ออกอัลบั้มแรกปี พ.ศ. 2544 และประสบความสำเร็จอย่างมาก

           แดน เคยมีผลงานทางด้านภาพยนตร์ ทั้งหมด 7 เรื่องได้แก่ สังหรณ์ (2546), แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า, ห้าแพร่ง (ตอน ห้องเตียงรวม), 32 ธันวา (2552), ส.ค.ส. สวีทตี้ (2554) ,The Melody รักทำนองนี้ (2555), วาเลนไทน์ สวีทตี้ (2555) และยังเคยทำงานพากย์ภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง Green Lantern พากย์เป็น ฮัล จอร์แดน ในเสียงไทย

           ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานนับ 10 ปี ในเส้นทางบันเทิงทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังทำให้เขามั่นใจแล้วว่าถึงเวลาสร้างหนังของตัวอีกสักที




เพ็ญ รับบทโดย แพทตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา

          สาวสวยน่ารักสดใส มั่นใจ ชีวิตเธอคือโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ต้องอัพโหลดตลอดเวลา ชอบช็อปเสื้อผ้าแบรนด์เนมเป็นชีวิตจิตใจแต่ก็เฉพาะตอนมันเซลล์เท่านั้น ชีวิตของเพ็ญเหมือนจะเพอร์เฟค ด้านการงานเธอก็เป็นพีอาร์-มาร์เก็ตติ้งที่ประสบความสำเร็จด้วยความคิดที่ทันสมัย ด้านความรักก็มีปกป้อง คุณหมอหนุ่มรูปหล่อคอยดูแล แต่เสียอย่างเดียวอยู่กับเขาเธอไม่เคยเป็นตัวของตัวเองเลยนี่สิ

           สาวน้อยหน้าใสขวัญใจหนุ่ม ๆ แจ้งเกิดจากบทสมทบในภาพยนตร์ ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น ด้วยความน่ารักสดใส ร่าเริง เป็นธรรมชาติทำให้เธอกลายเป็นดาราดาวรุ่งในทันที จากการทำงานในแวดวงภาพยนตร์ทำให้แพทตี้มีความสนใจในเรื่องการสร้างหนังจนเข้าศึกษาต่อและเรียนจบจากสถาบันเอสเออี (ประเทศไทย) สาขาทำภาพยนตร์ดิจิทัล มาโดยเฉพาะ

           นอกจากนี้แพทตี้ยังได้ทำงานหลากหลายในแวดวงบันเทิง ทั้งแสดงมิวสิควีดีโอ, ละครโทรทัศน์, พิธีกรรับเชิญ และยังเคยได้โชว์เสียงร้องน่ารัก ๆ ในเพลง ที่รัก ของ ปราโมทย์ ปาทาน อีกด้วย

           ในเรื่องนี้แพทตี้จะได้โชว์ความสามารถทางการแสดงมากขึ้นเพราะได้เป็นนางเอกหนังเต็มตัวครั้งแรกในชีวิต



ปกป้อง รับบทโดย บีม - กวี ตันจรารักษ์   

          คุณหมอรักษาโรคผิวหนัง แฟนหนุ่มหล่อของเพ็ญ ชายหนุ่มผู้เป็นทุกอย่างของเพ็ญ เป็นทั้งแฟน ทั้งเพื่อน ทั้งพี่ และ "พ่อ" เขาครอบงำทุกอย่างในชีวิตของเพ็ญด้วยความรักและหวังดี โดยที่เขาก็ไม่รู้ตัวเลยว่าที่ทำไปนั้นเป็นการบังคับแบบไม่ตั้งใจ แต่ปกป้องก็มีแง่มุมที่น่ารัก และอบอุ่น ที่เพ็ญชอบจนคบกันมานาน

           นอกจากความสามารถในการร้องเพลงแล้ว บีมยังมีความสามารถในด้านการแสดง ผลงานด้านละครและภาพยนตร์ของเขาได้ผลตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน ก่อนหน้านี้บีม แสดงหนังกับแดนมาแล้วหลายเรื่อง ตั้งแต่ สังหรณ์, แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า และล่าสุดกับ ส.ค.ส. สวีทตี้, วาเลนไทน์ สวีทตี้

           นอกจากงานในแวดวงบันเทิงบีมยังมีความสามารถในอีกหลายด้าน เช่น ด้านงานเขียนเป็น คอลัมนิสต์ด้านการท่องเที่ยวของนิตยสารสุขภาพดี ในปี พ.ศ.2552 บีมได้รับเลือกจากสมาคมไทยแนะแนวการศึกษานานาชาติให้เป็นคนแรกที่ได้รับรางวัลโล่พระราชทาน TIECA Bright Idol 2009 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่เป็นศิลปินที่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชนในด้านการศึกษา ดังนั้นบทคุณหมอคนเก่งนี้จึงเป็นบทที่เหมาะสมกับเขาอย่างที่สุด





ต้นหลิว รับบทโดย นุช - นีรนาท วิคทอเรีย โคทส์ 


          พิธีกรสาวสวยสุดเซ็กซี่ หุ่นดี ฮอตที่สุดประจำ "ที่ซ่อนผี" รายการแนวทดสอบความกล้าออกล่าผีที่ดังเรตติ้งกระฉูด เพราะด้วยเสน่ห์ของพิธีกรที่สาวไหนยากจะทาบรัศมี เธอนิยมแฟชั่นแบรนด์เนม ต้องสวยอินเทรนด์ตลอดเวลา ด้วยภาพลักษณ์สวยสง่าทำให้ต้นหลิวดู "เข้าไม่ถึง" แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่เป็นมิตรและยินดีที่จะรู้จักกับคนใหม่ ๆ เสมอ

           นางแบบสาวสวยลูกครึ่งอังกฤษ ในวงการนางแบบนั้นสาวนุชเรียกได้ว่าสุดฮอตติดอันดับนางแบบงานชุกอันดับต้น ๆ มีทั้งงานด้านเดินแบบ และพรีเซนเตอร์โฆษณาหลายชิ้น นุชได้เข้าสู่แวดวงภาพยนตร์จากเรื่อง Roommate เพื่อนร่วมห้องต้องแอบรัก และยังได้โชว์เสียงเพราะ ๆ ในเพลง จำทำไม เพลงประกอบภาพยนตร์สุดฮิตไว้อีกด้วย




คุณยาย รับบทโดย ขวัญจิต ศรีประจันต์ 

          คุณยายของชวด เป็นคนใจดี น่ารัก ขี้เล่น ใครอยู่ด้วยแล้วจะรู้สึกถึงความอบอุ่นของคุณยาย อาศัยอยู่คนเดียวที่บ้านต่างจังหวัด คิดถึงชวดที่เป็นหลานชายคนเดียวที่มาทำงานกรุงเทพมาก แม้ว่าจะมีการติดต่อกันตลอดเวลา แต่ก็อยากให้หลานชายกลับมาเยี่ยมบ้านบ้างสักครั้ง และหวังให้ชวดมีแฟนกับเขาเป็นตัวเป็นตนซะที

           ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน-อีแซว) แม่ขวัญจิตเป็นศิลปินพื้นบ้านที่ได้รับการยกย่องว่าว่ามีความสามารถในการร้องและเล่นเพลงแบบหาตัวจับได้ยาก และเมื่อหันเข้าสู่วงการเพลงลูกทุ่ง ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง มีผลงานเพลงดังมากมาย นอกจากนี้แม่ขวัญจิตยังมีผลงานบันเทิงหลากหลายรวมทั้งผลงานทางภาพยนตร์อีกด้วย


เกร็ดภาพยนตร์ เรื่องเล่าเมาท์หลังกอง คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์


คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์



          - บีม - กวี ตันจรารักษ์ ในเรื่องนี้เจอบทหนักไม่ใช่เล่น เพราะมีฉากดราม่าฉากหนึ่ง เป็นคิวถ่ายกลางคืนที่บีมต้องถ่ายฉากขับรถซ้ำถ่ายทำกันอยู่จนเกือบเช้า กว่า 10 เทค และยังเป็นการถ่ายทำแบบ Long take ผิดปุ๊บเริ่มใหม่ปั๊บ
 แต่นักแสดงทุกคนและทีมงานก็เต็มที่จนผ่านมาได้ เท่านั้นยังไม่พอหมดฉากดราม่า ผู้กำกับขอต่อด้วยฉากตลกทันที! จนบีมขอยกฉายา "ผู้กำกับจอมโหดหน้าใหม่แห่งวงการ" ให้แดนไปเลย

           - สาวสวย แพทตี้ - อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา ในเรื่องนี้ยังเป็นการเปลี่ยนลุคที่ผู้ชมจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเพราะเธอจะโชว์ความสามารถทุ่มสุดตัวทั้งคอเมดี้, ดราม่า จนไปถึงเป็นดารานักบู๊ ! ต้องเล่นจริงไม่ใช้สลิง ไม่ใช้นักแสดงแทน เรียกว่าโดนผู้กำกับใส่ความสนุกลงไปในบทไม่ยั้งแถม ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านแต่ละฉากไปง่าย ๆ มีทั้งฉากต้องคลุกดินคลุกทรายสารพัด, เมาเหล้าจนอ้วก หรือแม้กระทั่งฉากหัวเราะ ก็ต้องหัวเราะให้ถูกใจ ถูกสั่งเทคใหม่จนกว่าผู้กำกับจะขำ! 

           - กำกับเด็ก กำกับหมา! แม้ว่าใครจะบอกว่าการกำกับเด็กและสัตว์นั้นเป็นเรื่องยาก แต่แดนก็ทำมาแล้วทั้งสองอย่างในเรื่องนี้ โดยเจ้าหมาแพนดี้ ผู้มีบทบาทสำคัญกับงานของตัวละครชวดในเรื่องนี้แดนเป็นคนไปคัดเลือกมาด้วยตัวเอง มีการออดิชั่นโชว์ความสามารถเช่นเดียวกับนักแสดงคน! จนได้เจ้าโชกุนหมาน้อยหน้าตายียวนกวนประสาทแต่น่ารัก ผู้มีผลงานโฆษณามาแล้วหลายชิ้น มารับบท ส่วนการกำกับเด็กนั้นก็ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะต้องสั่งให้น้องนักแสดงร้องไห้ ซึ่งกำกับได้ดีมากสั่งปุ๊บร้องปั๊บ แต่ตอนหยุด แดนต้องเข้าไปปลอบด้วยตัวเองถึงจะหยุดร้อง        

           - อุปสรรคอย่างหนึ่งเวลาออกกองถ่ายของ แดน วรเวช ก็คือมักจะมีสัตว์ที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาป่วนกอง เสมอ เช่น จักจั่นที่ร้องเสียงดังมากในฉากเกาะกูด, มีงูอยู่ในบ้านร้างที่ใช้ถ่ายทำจนต้องให้ทีมงานไล่ไป, มีลิง มาแอบขโมยของกองกิน, วัวและสุนัขมา บุกเข้ากองถ่ายที่ปราณบุรี

           - เสื้อผ้าที่แพทตี้ต้องใช้โยนในฉากช้อปปิ้ง นั้นรวม ๆ แล้วมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นบาท ซึ่งก็ทำเอาทีมอาร์ตถึงกับเหงื่อตกเพราะถ้าทำสกปรกไปคงต้องจ่ายเงินชดใช้กัน

           - ฉากตู้กดน้ำ แดนและแพทตี้ ต้องดื่มน้ำกระป๋องไปกว่า 20 กระป๋อง ! เพราะทุกครั้งเปิดกระป๋องต้องคอยลุ้นว่าน้ำจะพุ่งออกมาใส่หรือไม่ ทำให้ต้องถ่ายซ้ำหลายรอบกว่าจะได้ภาพที่สมบูรณ์

           - ในภาพยนตร์จะมีตัวเลข ที่เกี่ยวข้องวันเกิด, ปีเกิดของแดน เช่น 84 16 27 มีทั้งเลขไทยและฝรั่ง อยู่ตามพื้นที่ต่างในฉาก และมีลูกเล่นความเป็นตัวแดนแอบใส่ไว้ในภาพยนตร์ให้แฟน ๆ ลองค้นหากันสนุก ๆ อีกด้วย

บางทีอาจจะเป็นเพราะสนามแม่เหล็กของพรหมลิขิต ที่ดึงเรามาเจอกันผิดเวลา

บางทีอาจจะเป็นเพราะเราต้องรอถามตัวเองว่าเขาใช่หรือไม่ 

บางทีอาจจะเป็นเพราะเราต้องการหาคนที่จะมี "จังหวะ" ตรงกับหัวใจ

บางทีอาจจะเป็นมนต์เสน่ห์ใน... คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์




วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เดี่ยว 10

ช่วงนี้เครียดๆๆกัน มาดูเดี่ยว 10 คลายเครียดกัน คนที่ร้องไห้ เศร้า เสียใจ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ปล่อยๆๆไปแล้วมาหัวเราะกันดีกว่า หลังจากนั้นค่อยว่ากันว่าร้องไห้ เศร้า เสียใจ กันต่อไป หรือจะลืมๆๆไป นะจ๊ะ


วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"KAYDARA สงครามล่ามนุษย์เหนือโลก" ซับไทย

"KAYDARA สงครามล่ามนุษย์เหนือโลก" ซับไทย 

สำหรับสาวกหนัง The Matrix ทั้งหลาย คงจะชอบกับการได้ดูหนังเเผ่นฟิลม์เรื่องนี้มันเหม­ือนผมได้กลับไปปลั๊กอินสู่โลกไซเบอร์สีเขี­ยวๆหม่นๆที่คุ้นเคย..เหล่าเอเจนท์เเว่นดำส­ุดอึด..ประชากรซีออนที่มียานรูปร่างประหลา­ดๆ..เเละสุดยอดวีรบุรุษในตำนานอย่าง "นีโอ เดอะวัน" ทุกอย่างที่ผมกล่าวมาคุณจะได้พบในสุดยอดหน­ังสั้นแฟนเมด 54 นาทีเรื่องนี้ครับ..

แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบคงจะเข้าใจยากซักหน่อย




มุมข่าวน่าสนใจ

ผู้ติดตาม